ทั้งนี้ ตัวเลขภาคการเงินที่สะท้อนผ่านการขยายตัวของเงินฝากที่เร่งตัวสูงกว่าสินเชื่อ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดเช่นกัน ตลอดจนแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและความเสี่ยงเสถียรภาพการเงินที่ยังคงต้องจับตามอง จากทั้ง 4 ปัจจัยข้างต้น จะทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงต้องถูกกดดันให้อยู่ในระดับต่ำถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่การลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน อาจเผชิญความผันผวนสูงในอนาคต นางสุวรรณี วัธนเวคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (Mrs. Suwannee Wattanavekin, Executive Vice President of Kiatnakin Bank Plc.) ระบุว่าแม้ว่าเศรษฐกิจปี 2558 จะมีความท้าทายหลายประการจากข้อมูลข้างต้นนั้น แต่ในอีกด้านหนึ่งการบริโภคและการลงทุนไม่ควรหยุดนิ่ง ทำให้เกิดคำถามว่าด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน การลงทุนอย่างไรจึงเหมาะสม และจากการวิเคราะห์ของธนาคารเกียรตินาคิน พบว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำและผันผวน ขณะที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดินให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยข้อมูลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.0% ต่อปี สูงกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ นอกจากนี้สาเหตุที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจเกิดจาก 4 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญ ปัจจัยที่ 1 คือ ความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ที่มากขึ้น ตามการขยายตัวของเขตเมืองทั่วภูมิภาค Urbanization ปัจจัยที่ 2 คือ แรงผลักดันจากโครงการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการที่มีแนวโน้มดำเนินการได้ก่อน ได้แก่ รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัจจัยที่ 3 คือ ปริมาณที่ดินที่มีจำกัด โดยเฉพาะในพื้นที่เมือง ส่งผลให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว ปัจจัยที่ 4 คือ การปรับเพิ่มราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2559-2562 เฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 10-15% จากการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงเศรษฐศาสตร์มหภาค โดยการมองภาวะเศรษฐกิจในลักษณะภาพรวมของประเทศ และการวิเคราะห์ตลาดจากทีมของเกียรตินาคินเอง เราพบว่ามีโอกาสสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 16 จังหวัด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กล่าวคือ
กลุ่มที่ 1 คือ “จังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑ” มี 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และ สมุทรปราการ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเขตเมืองและการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง
กลุ่มที่ 2 คือ “จังหวัดหัวเมืองใหญ่” มี 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก ขอนแก่น และ ชลบุรี ซึ่งได้รับประโยชน์จาก 1) การเติบโตของเขตเมือง อันเกิดจากการค้าและการลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรือ 2) การเป็นจังหวัดสำคัญที่เชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง Greater Mekong Subregion : GMS
กลุ่มที่ 3 คือ “จังหวัดหน้าด่านชายแดน” มี 6 จังหวัด ได้แก่ สงขลา เชียงราย ตาก มุกดาหาร หนองคาย และ กาญจนบุรี ซึ่งได้รับประโยชน์จาก 1) กิจกรรมการค้าและการลงทุนตามแนวชายแดนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) การเป็นจังหวัดบนเส้นทางคมนาคมขนส่ง GMS 3) ภาครัฐกำลังสนับสนุนให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4) บางจังหวัดยังได้รับประโยชน์จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย จึงเห็นได้ว่า เวลานี้เป็นจังหวะแห่งการลงทุน ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่อยากให้มองข้าม ไม่ว่าจะที่ดิน ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ หรือ แม้แต่ห้องชุดคอนโดมิเนียม โดยเกียรตินาคินยังมีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ โดยพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ที่ธนาคารของรัฐและเอกชนหลายแห่งทยอยปรับลดลง หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2% เหลือ 1.75% เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา รวมถึงการไม่ปรับเพิ่มราคาของกลุ่มวัสดุก่อสร้างซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ส่งผลให้เป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : http://terrabkk.com/?p=57591
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : http://terrabkk.com/?p=57591