ตอบทุกการค้นหา
ข้อมูลที่มีประโยชน์
เติมสุข เติมรอยยิ้ม

 


Home » , , » วัดม่อนปู่ยักษ์ ลำปาง ซึ่งน่าจะมีอายุราวกลาง พุทธศตวรรษที่ 24 ในช่วงปี พ.ศ.2425 ถึงสมัยราชกาลที่ 6

วัดม่อนปู่ยักษ์ ลำปาง ซึ่งน่าจะมีอายุราวกลาง พุทธศตวรรษที่ 24 ในช่วงปี พ.ศ.2425 ถึงสมัยราชกาลที่ 6



วัดม่อนปู่ยักษ์

วัดม่อนปู่ยักษ์ (ม่อนสัณฐาน) ตั้งอยู่บริเวณทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ ของตัวเมืองลำปาง ปัจจุบันซึ่งอยู่ทาง ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำวัง พื้นที่ตั้งวัด อยู่บนเนินเขาขนานเล็ก ๆ ไม่สูงนัก ตั้งอยู่เลขที่ 15 ถ.วัดม่อนจำศีล ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง มีเนื้อที่ 15 ไร่ 2 งาน 8 ตารางวา โฉนดเลขที่ 16196 สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย เป็นวัดที่มีรูปแบบศิลปะพม่า เช่นเดียวกับวัดพม่าทั่วไปในล้านนา มีการบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา อาคารหลักมี 3 หลัง คือ กุฏิไม้ศิลปะพม่า วิหาร , อุโบสถ ก่ออิฐถือปูน


วัดม่อนปู่ยักษ์ ซึ่งน่าจะมีอายุราวกลาง พุทธศตวรรษที่ 24 ในช่วงปี พ.ศ.2425 ถึงสมัยราชกาลที่ 6 ในตำนานกล่าวไว้ว่า ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จออกไปโปรดสัตว์ พร้อมด้วยพระอรหันต์เผยแผ่พระพุทธศาสนา มาทางทิศบูรพานั้น ครั้งผ่านมาทางแว่นแคว้นแห่งหนึ่ง ก็ปรากฏมียักษ์อยู่ตนหนึ่ง ขัดขวางการเผยแพร่พุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า และได้ขับไล่พระองค์ผ่านมาทางป่าบ้านพระบาท จนถึงบริเวณป่าม่อนจำศีล ก็มาทันกันที่ที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่บนวัดม่อนจำศีล ท่ามกลางพระอรหันต์ ทรงเห็นว่า ยักษ์ตนนั้นน่าจะหยุดทำเช่นนั้นเสียที จึงให้ยักษ์ ตนนั้นเข้าเฝ้าและฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เกิดอัศจรรย์ใจตนเอง จึงก้มลงกราบแทบพระบาท ด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า จึงขอบำเพ็ญศีลภาวนาที่ม่อนจำศีล ครั้นเวลาล่วงเลยไปไม่นาน ยักษ์ตนนั้นตายลงและได้มาตายที่ม่อนปู่ยักษ์ อันอยู่ไม่ไกลจากม่อนจำศีลมากนัก ในการต่อมาได้มีผู้พบรอยพระพุทธบาท และรอยเท้ายักษ์บริเวณวัดพระบาท ชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดขึ้น โดยสร้างวัดคร่อมรอยพระพุทธบาทเพื่อให้ยกสูงขึ้น เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
กองพุทธสถานกรมการศาสนาทำหนังสือ “ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักรเล่ม 8” พ.ศ. 2525 บันทึกว่าวัดม่อนปู่ยักษ์ ได้ก่อสร้างเมื่อวันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ.2442 โดย พ่อเฒ่านันตาน้อย พ่อเฒ่านันตาไก่ พร้อมพี่น้องอีก 3 คน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2442 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 14.82 เมตร ยาว 14.82 เมตร อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ แบบอิทธิพลศิลปะตะวันตก ศาลาการเปรียญและกุฏิไม้โบราณศิลปะพม่า ฝาผนังและเสาไม้สัก ประดับลวดลายลงรักปิดทอง เพดานติดกระจกและมีเจดีย์ฝีมือช่างพม่า พระประทานลงปิดทอง

หลักฐานอ้างอิงอีกประการหนึ่งคือ ในปี พ.ศ.2444 หรือ ค.ศ.1901 เป็นการศึกษาจาก หลักศิลาจารึก เป็นภาษาไทใหญ่คือ วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย นายจองนันตาแกง มาจากรัฐฉาน ในประเทศพม่า เป็นผู้สร้างวัดสำเร็จเสร็จสิ้นครบรอบ 30 ปี ที่จองนันตาแกง จากบ้านมา ไม่มีใครรำลึกถึงท่านผู้นี้ และไม่มีใครรู้จักเลย ชื่อของผู้อื่นจึงได้รับการบันทึกในหนังสือของทางราชการ ที่ใช้เป็นหนังสืออ้างอิงต่อมา





                                               จองที่พัก โรมแรมทั้งหมดในจังหวัดลำปาง



SHARE