พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน และสตรี และปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนยา ล่าสุดในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 20 คน จากที่ก่อนหน้านี้ ออกหมายจับไปก่อนแล้ว 29 คน
ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะลงพื้นที่เขตปาดังเบซาร์ เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสและหลักฐานเพื่อขยายผลในส่วนของคดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าภายหลัง นายบรรณจง ปองผล หรือ โกจง นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องและเป็นตัวการสำคัญ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
นักธุรกิจเกาะหลีเป๊ะมอบตัวอีก1คดีโรฮีนจา
ความคืบหน้าคดีการติดตามจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่ จ.สงขลา ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 29 คน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมยศ อังโชติพันธุ์ อายุ 45 ปี นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ ในจ.สตูล ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่มอีก 1 คน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดย นายสมยศ ถูกออกหมายจับในข้อหาสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ฯ ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ สำหรับ นายสมยศ นั้น เป็น
เครือญาติ กับ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วน จ.สตูล หรือ โกโต้ง หนึ่งในผู้กว้างขวางของ จ.สตูล
นอกจากนี้ ทาง พล.ต.อ.เอก ยังได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความคืบหน้าของคดี และจะมีการแถลงในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้
ระนองสนธิกำลัง3ฝ่ายเข้มสกัดค้ามนุษย์
ตามที่ นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง สั่งให้ทุกหน่วยงานในจังหวัดระนอง สนธิกำลังร่วมกันทุกภาคส่วน ออกตรวจสอบพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี วันนี้ นายอธิศักดิ์ หนูทอง ปลัดฝ่ายป้อง อ.เมืองระนอง ได้ร่วมกับ นายศิลปะชัย เทพศักดิ ปลัดป้องกัน อ.ละอุ่น พ.ต.ท.ถาวร อัมพันธ์ สารวัตร สภ.บางแก้ว อ.ละอุ่น ร.ท.ปรีชา เม่าน้ำพลาย หัวหน้าชุดมวลชนสัมพันธ์ 4105 กองรักษาความสงบภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือร่วมกัน ลงเรือออกลาดตระเวนตรวจสอบตามแนวชายแดนจังหวัดระนอง กับจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า ในพื้นที่ ม.4, 5 ต.บางแก้ว แต่ไม่พบว่ามีการลักลอบขนชาวโรฮีนจา หรือแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาในน่านไทย หรือหลบซ่อนตามป่าแต่อย่าง ตลอดยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร
จากนั้น ได้เดินทางไปยังเกาะนพเกตุ ม.4 ต.ทรายแดง อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมกลางทะเล และเคยมีขาวลือว่า มักจะมีผู้ค้าแรงงาน นำชาวโรฮีนจาและแรงงงานชาวเมียนมามาหลบซ่อน หรือตั้งแคม เพื่อรอการส่งต่อให้กับนายหน้าที่อยู่ฝั่งไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกไป เดินตรวจสอบทั่วทั้งเกาะ แต่ไม่พบชาวโรฮีนจา หรือแรงงานชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองมาแอบซ่อนหรือตั้งแคมพัก เพื่อรอการส่งต่อแต่อย่างใด พบเพียงแรงงานต่างด้าวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมจำนวน 6 คน มีเอกสารถูกต้อง เป็นลูกจ้างกรีดยางพาราในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ออกตรวจสอบในจุดอื่น ๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่ พร้อมทั้งให้ขอชาวบ้านทั้งชาวสวนและชาวประมง ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบเห็นการลักลอบแรงงานเข้ามาในน่านน้ำระนองหรือเข้ามาหลบซ่อนตามแนวชายแดนระนอง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้ทราบทันที
จนท.บุกค้นปาดังฯ5จุดหาเอกสารโยงโรฮีนจา
พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่จาก 5 หน่วยงาน ทั้ง ตำรวจ ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปปง. และเจ้าหน้าที่สรรพากร กว่า 100 นาย แบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด เพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 5 จุด ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ที่เครือข่ายของขบวนการค้ามนุษย์ที่ได้ออกหมายจับแล้ว เริ่มจากคุมตัว นายบรรจง ไปทำการตรวจค้นที่บ้านพักเลขที่ 4 ถนนทักษิณเฉลิมเขต เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา จุดที่ 2 ที่เมเยอร์รีสอร์ท ของ นายบรรจง และที่ห้องทำงานในสำนักงานเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ รวม 3 จุด โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดเอกสารต่างๆ ได้จำนวนหนึ่ง ไปทำการตรวจสอบ ส่วนอีก 2 จุด เป็นบ้านของ นายชนชาสน์ ไชยมณี บ้านเลขที่ 45 ถนนพลังพัฒนา 1 อ.สะเดา จ.สงขลา และจุดสุดท้ายคือบ้านของ นายถาวร มณี บ้านเลขที่ 103/4 หมู่ 6 ต.ต.ปาดัง อ.สะเดา จ.สงขลา รวม 5 จุด ที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นและสามารถตรวจยึดเอกสารได้จำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปตรวจสอบ ซึ่งสองรายหลัง ทางศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับไปแล้วทั้ง 2 คน
ทั้งนี้ หลักฐานที่สำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่เจ้าตรวจค้นคือ การหาบัญชีจำนวนคนชาวโรฮีนจา บัญชีทางการเงิน อาวุธปืนทุกชนิด ยานพาหนะที่มีไว้ในครอบครอง เอกสารเกี่ยวกับที่ดิน และตรวจสอบเอกสารการจ่ายภาษีประจำปี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจค้นทั้ง 5 จุด ไปประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ส่วนความคืบหน้าทางคดี ได้ออกหมายจับไปแล้ว 29 คน และได้จำนวนนี้มีการจับกุมและเข้ามอบตัวแล้ว 11 คน
ที่มา : news.goosiam.com