พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหนัาศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ในประเด็นโรฮิงญา โดยระบุว่า
โรฮิงญา ถ้าได้เข้ามาอาศัยอยู่ในไทย เป็นจำนวนมาก จะก่อปัญหา ต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น
(1) โรฮิงญา เป็นบุคคลไม่มีสัญชาติ ถ้ามาอยู่ในไทย จะเป็น ผู้หลบหนีเขาเมืองผิดกฎหมาย บุตรหลานจะเป็นเด็กไร้สัญชาติ ก่อให้เกิดปัญหาและภาระด้านสังคมให้กับประเทศไทยมากมาย ทั้ง ค่าเรียน,ค่ายา,ค่าใช้อุปกรณ์สาธารณะอื่นๆ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายหลายโรค
(2) ส่วน โรฮิงญา ที่ลักลอบมาอยู่ในไทย นานเข้า จะเริ่มทำผิดกฎหมาย เช่น ปลอมแปลงเอกสารสำคัญต่างๆ เกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรม ข้ามชาติหลายรูปแบบ เช่น การค้ามนุษย์,ปลอมแปลงหนังสือเดินทาง การค้าสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธสงคราม,ตั้งตัว เป็นแก็งค์เรียกเก็บค่าคุ้มครองจากชาวต่างด้าวอื่นๆ
(3) จะนำพาชาวมุสลิมโรฮิงญาจากพม่าเข้าไทยเพิ่มขึ้น เพื่อส่งจากไทยไปมาเลเซีย หรือกลุ่มประเทศมุสลิมอื่นๆ
(4) ตั้งกลุ่ม Burmese Rohingya Association in Thailand (BRAT) เคลื่อนไหวในไทย เพื่อเรียกร้องสิทธิสถานะอยู่ในประเทศไทย ทำให้ภาพพจน์ไทยเสียหาย
(5) เริ่มมีขยายการจัดตั้งกลุ่มก่อการร้าย RSO (จากแนวชายแดนพม่าบังคลาเทศ)ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มTaliban เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ทำให้ปัจจุบันมีชุมชนอินเตอร์เน็ต ของโรฮิงญาเองเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ในประเทศกลุ่มอาเชียน
(6) โรฮิงญาส่วนใหญ่ชอบความหัวรุนแรง เช่นเหตุการณฆ่าชาวพุทธ/ข่มขืนผู้หญิง จนเกิดจลาจล ก่อกวนในค่ายกักกันในไทย ฯลฯ
- ผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่ยากจนไร้สัญชาติจำนวนมากได้อพยพไปสู่เมืองใหญ่ในบังคลาเทศ มาเลเซีย ปากีสถาน และเดินทางต่อไปประเทศแถบอ่าวเปอร์เชียที่เชื่อกันว่ามีคนกลุ่มนี้กว่า 200,000 คนอาศัยอยู่ในช่วงทศวรรษ 1990 (Lintner 1993; Human Rights Watch 2000)
- ชาวโรฮิงญาบางคนได้รับความช่วยเหลือจากองค์การอิสลามต่าง ๆ และเข้าร่วมการต่อสู้ในอัฟกานิสถานโดยต้องทำหน้าที่เสี่ยงภัยที่สุดใน สมรภูมิรบ กวาดล้างกับระเบิดและแบกสัมภาระ (Lintner 2002)
จากข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ทุกประเทศไม่มีใครกล้ารับ โรฮิงญา แม้จะมีโรฮิงญา ที่ดีอยู่มากกว่าพวกไม่ดี แต่ประเทศไหนจะเสี่ยงบ้างละ!
ที่มา matichon.co.th